ผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม
การจัดการด้านอนุรักษ์พลังงาน
1
2
3
การบำบัดและควบคุมน้ำเสีย
ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้ง ปี 2565-2567
| อันดับ | ดัชนีการตรวจวัด | หน่วย | ผลวิเคราะห์ 2567 | ผลวิเคราะห์ 2566 | ผลวิเคราะห์ 2565 | มาตรฐาน | เปรียบเทียบเกณฑ์มาตรฐาน |
|---|---|---|---|---|---|---|---|
| บริเวณ Effluent | บริเวณ Effluent | บริเวณ Effluent | |||||
| 1 | pH at 25 oC | - | 7.9 | 7.7 | 6.5 | ผ่าน | 5.5 - 9.0 |
| 2 | Biochemical Oxygen Demand | mg/L | 2.0 | 4.42 | 2.2 | ผ่าน | <20 |
| 3 | Chemical Oxygen Demand | mg/L | <40(23.0) | <40(17.0) | 32 | ผ่าน | <120 |
| 4 | Total Suspended Solids | mg/L | <10 | <10 | <10 | ผ่าน | <20 |
| 5 | Total Dissolved Solids | mg/L | 176 | 212 | 224 | ผ่าน | <3,000 |
| 6 | Oil & Grease | mg/L | <1.0 | <1.0 | <1.0 | ผ่าน | <5 |
แนวทางการควบคุมน้ำทิ้ง
บริษัทฯ มีแนวทางการปฏิบัติและควบคุมกิจกรรมการใช้น้ำภายใน รวมถึงการทิ้งน้ำหลังจากผ่านกระบวนการเพื่อลดปัญหาน้ำเน่าเสีย และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีภายในบริษัทและชุมชนโดยรอบ
น้ำจากกิจกรรมการชำระล้างจากการอุปโภคบริโภค
น้ำที่มาจากแหล่งนี้ ได้แก่ การทำความสะอาดร่างกาย ล้างมือล้างหน้า การชำระล้างในห้องน้ำ โดยน้ำดังกล่าวจะถูกปล่อยลงท่อระบายน้ำที่เชื่อมต่อกับบ่อบำบัดน้ำเสียด้านหน้าบริษัท เพื่อปรับสภาพน้ำให้ได้คุณภาพตามข้อกำหนดก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก และเพื่อเป็นการรณรงค์และควบคุมการใช้น้ำ รวมถึงควบคุมน้ำทิ้งที่ต้องบำบัดให้มีปริมาณน้อยลง
น้ำจากกิจกรรมการชำระล้างชิ้นงาน
น้ำที่มาจากแหล่งนี้ ได้แก่ น้ำจากการทำความสะอาดชิ้นงานหลังผ่านการยิงด้วยก๊าซไนโตรเจน น้ำจากการล้างชิ้นงานหลังจาการอบชิ้นงาน การใช้น้ำในกระบวนการต้มชิ้นงาน การใช้น้ำในกระบวนการล้างชิ้นงานที่ผ่านการยิงไนโตรเจน น้ำที่มาจากแหล่งดังกล่าวจะถูกปล่อยลงท่อระบายน้ำที่เชื่อมต่อกับบ่อบำบัดน้ำเสียด้านหน้าบริษัท เพื่อปรับสภาพน้ำให้ได้คุณภาพตามข้อกำหนดก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก
น้ำจากกิจกรรมทำความสะอาด (พื้นโรงงาน)
น้ำหลังการใช้เช็ดถูทำความสะอาดพื้นโรงงาน น้ำจากการซักผ้าถูพื้น น้ำที่มาจากแหล่งดังกล่าวจะถูกนำไปทิ้งลงในถังทรายที่เตรียมไว้ เพื่อให้ทรายดูดซับน้ำไว้และทิ้งให้น้ำระเหยออกไป หลังจากนั้นให้เปลี่ยนทรายในถังเป็นเมื่อสกปรกมาก โดยการนำทรายที่ปนเปื้อนดังกล่าวส่งออกไปกำจัดโดยบริษัทที่รับบำบัดขยะอันตรายภายนอก
น้ำมันและสีที่เหลือจากกิจกรรมการทาสี ตีเส้นในโรงงาน
สีและน้ำมันที่เหลือหลังจากการใช้งานให้นำไปเทลงในกะบะทรายที่เตรียมไว้ เพื่อให้ทรายดูดซับสีและน้ำมันไว้โดยทิ้งไว้ให้แห้ง หลังจากนั้นให้เปลี่ยนทรายในกะบะเป็นระยะเมื่อสกปรกมาก โดยการนำทรายที่ปนเปื้อนดังกล่าวส่งออกไปกำจัดโดยบริษัทที่รับบำบัดขยะอันตรายภายนอก
น้ำจากกิจกรรมการชำระล้างจากโรงอาหาร
น้ำที่มาจากแหล่งนี้ ได้แก่ การทำความสะอาดภาชนะใส่อาหาร จะถูกผ่านถังดักไขมันก่อนถูกปล่อยลงท่อน้ำที่เชื่อมต่อกับบ่อบำบัดน้ำเสีย ส่วนน้ำล้างผักและเศษอาหาร น้ำล้างมือ น้ำเหล่านี้จะถูกปล่อยลงท่อน้ำที่เชื่อมต่อกับบ่อบำบัดน้ำเสียโดยตรง เพื่อปรับสภาพน้ำให้ได้คุณภาพตามข้อกำหนดก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก
น้ำจากกิจกรรมการซ้อมแผนฉุกเฉิน
แผนฉุกเฉินเมื่อสารเคมีหรือน้ำมันหกรั่วไหล แผนดับเพลิง น้ำดังกล่าวเป็นน้ำที่ปนเปื้อน ดังนั้นให้กั้นน้ำดังกล่าวไว้ห้ามปล่อยออกไปสู่ภายนอก และให้สูบน้ำขึ้นมากักเก็บใส่ในถังไว้ เพื่อรอการปรับสภาพน้ำก่อนปล่อยลงท่อระบายน้ำที่เชื่อมต่อกับบ่อบำบัดน้ำเสีย เพื่อปรับสภาพน้ำอีกครั้งก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก
น้ำจาก Cooling Tower
เมื่อมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำให้ปฎิบัติตามขั้นตอนที่บริษัทกำหนด พร้อมทั้งตรวจเช็คความเป็นกรด ด่าง และหรือค่า Hardness และเมื่อพบว่าน้ำมีค่าเกินมาตรฐานที่กำหนด ต้องทำการปรับสภาพน้ำนั้นก่อนนำน้ำนั้นไปใช้ในกิจกรรมรดน้ำต้นไม้
การจัดการของเสียอุตสาหกรรม
บริษัทฯ จะเลือกเครื่องจักรที่มีคุณภาพสูงเพื่อช่วยลดการก่อให้เกิดของเสียในปริมาณน้อยที่สุด รวมถึงเลือกใช้ผู้รับจ้างกำจัดกากอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด
การจัดการของเสีย
บริษัทฯ ได้มีการของเสียจากกระบวนการผลิตโดยนำส่งให้กับผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตกำจัดเป็นผู้ดำเนินการขนส่งและกำจัด โดยระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมของบริษัทมีการดำเนินการสอดคล้องตามข้อบังคับของกรมโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ การกำจัดขยะต่างๆ ยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย รวมถึงบริษัทฯ ยังมีการจัดกิจกรรมภายในเพื่อลดปริมาณขยะต่อเนื่องทุกปี
| หน่วย | 2567 | 2566 | 2565 | 2564 | |
|---|---|---|---|---|---|
| ปริมาณขยะ | กิโลกรัม | 458,928 | 331,254 | 346,701 | 351,100 |
| ขยะทั่วไป | ร้อยละ | 27 | 36 | 48 | 52 |
| ขยะอุตสาหกรรม | ร้อยละ | 52 | 34 | 29 | 31 |
| ขยะรีไซเคิล | ร้อยละ | 18 | 26 | 20 | 15 |
| ขยะอันตราย | ร้อยละ | 3 | 4 | 4 | 2 |
ประเภทของขยะ
การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก
โพลีเน็ตตระหนักถึงความสำคัญของภาวะโลกร้อน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas หรือ GHG) ในปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) อุณหภูมิของพื้นผิวโลก รวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ที่มากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบที่อาจตามมาในอนาคต จึงได้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) ขึ้น และได้กำหนดมาตรการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐาน ISO14064-1:2018 และยังได้กำหนดกลยุทธ์ในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกโดยการใช้พลังงานทดแทน รวมถึงวิธีการอื่นๆ ที่สำคัญ
เป้าหมาย
ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของบริษัท ( ขอบเขต 1 และขอบเขต 2) 10% จากปีฐาน 2564 ภายใน 5 ปี ปีที่ 5 (พ.ศ.2569) ค่า intensity ต้องเหลือปริมาณการปลดปล่อย Ton CO2e ต่อ อัตราการผลิต 1 Ton น้อยกว่า หรือ เท่ากับ 1.741 ซึ่งปี 2567 ได้ค่า intensity = 0.193 ซึ่งน้อยกว่า 1.741 ดังนั้น จึงได้เป้าหมายแล้วในปีนี้ ซึ่งลดลงมาจากพลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากการซื้อการไฟฟ้า แต่ไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทน (ส่วนนี้ทำให้ลดได้มาก)

| ปี 2021 ฐาน (ตัดบิลไฟฟ้า) |
ปี 2022 | ปี 2023 | ปี 2024 | |
|---|---|---|---|---|
| scope 1+2 (ปริมาณการปลดปล่อย) ton CO2e | 4,971.67 | 6.174.92 | 5.256.47 | 4,884.91 |
| อัตราการผลิต (หน่วย Ton) | 2,570.46 | 3,131.58 | 3,027.53 | 5,975.00 |
| ปริมาณการปลดปล่อย ton CO2e ต่อ อัตราการผลิต 1 Ton | 1.934 | 1.972 | 1.736 | 0.818 |
| ถ้าเทียบปริมาณการปลดปล่อยต่อ อัตราการผลิต 1 Ton = | 0.038 | เพิ่มขึ้น | 0 | 0 |
| เป้าหมายลดลง 10% (อีก 5ปี) | 0.193 | 0.193 | 0.193 | 0.193 |
| ปีที่ 5 ค่า intensity ต้องเหลือปริมาณการปลดปล่อย Ton CO2e ต่อ อัตราการผลิต 1 Ton คือ น้อยกว่าเท่ากับ 1.741 (1.934-0.193) |
- | ไม่ได้ตามเป้า | ได้เป้า | ได้เป้า |

โปรแกรมการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยทำการปรับปรุงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ( Solar cells) ทดแทนพลังไฟฟ้าที่ได้มาจากการซื้อการไฟฟ้าจำนวน 3,211,071.00 kWh และคิดเป็นปริมาณ GHG ที่ลดได้ 1,605,214.39 KgCO2e
โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัท บีเอสไอ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จากัด (“BSI”) ซึ่งเป็นผู้ทวนสอบการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เป็นผู้ทวนสอบรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปี 2567 ของบริษัทฯ โดย LRQA ได้ให้ความเห็นว่าจากการทวนสอบรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่พบเหตุที่อาจสงสัยได้ว่ารายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัทฯ แสดงข้อมูลไม่ถูกต้องอย่างเป็นสาระสำคัญ โดยรายงานดังกล่าวลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568
ผลการดำเนินงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2567 ของบริษัทฯ
| 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2565 | 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2566 | 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2567 | |
|---|---|---|---|
| ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขอบเขต 1 (ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) | 441 | 321 | 486 |
| ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขอบเขต 2 (ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) | 5,723 | 4,935 | 4,399 |
| ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขอบเขต 3 (ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) | 4,445 | 3,031 | 3,162 |
หมายเหตุ: ตามมาตรฐานการทำบัญชีก๊าซเรือนกระจก (GHG Protocol) สําหรับภาครัฐและเอกชน ซึ่งพัฒนาโดย World Resource Institute (WRI) ร่วมกับ World Business Council for Sustainable Development (WBCSD) แบ่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงและทางอ้อมเป็น 3 scope ได้แก่ ขอบเขต (Scope) 1: การปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงทั้งหมด ขอบเขต 2 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่เกิดจากการใช้หรือการซื้อไฟฟ้า ความร้อนหรือไอน้ำ และขอบเขต 3 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมแบบอื่นนอกขอบเขตที่กำหด เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งโดยใช้ยานพาหนะที่ไม่ได้ควบคุมโดยหรือเป็นของผู้รายงาน ฯลฯ
โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
บริษัทฯ ดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักรโดยใช้เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย ทำให้ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและลดอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์