นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม

บริษัทฯ มีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจและมีความมุ่งหมายอันพึงประสงค์ด้านระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อให้บรรลุมาตรฐานสากลสูงสุด โดยให้ความสำคัญต่อการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจและผลิตภัณฑ์ สนับสนุนมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้แก่ การใช้พลังงานทดแทน การปรับปรุงระบบการขนส่งสินค้าเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การเลือกใช้เครื่องจักรที่มีคุณภาพสูง เพื่อช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าในสายการผลิต การผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการลดโลกร้อน นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยการรณรงค์การปลูกต้นไม้ในเขตโรงงานซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่สังคม โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง

การจัดการด้านอนุรักษ์พลังงาน

1

บริษัทฯ มีนโยบายที่จะใช้พลังงานทดแทน หรือการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell) เนื่องจากบริษัทฯ มีอาคารและโรงงานขนาดใหญ่หลายหลัง จึงมีความเหมาะสมที่จะติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เพื่อลดการใช้พลังงานและลดต้นทุนของบริษัทฯ อีกด้วย

2

การปรับปรุงระบบการขนส่งสินค้า (Logistic) เพื่อลดต้นทุนในการขนส่ง และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บริษัทฯ จะดำเนินการจัดเรียงเส้นทางการขนส่งให้มีประสิทธิภาพ ทั้งการขนส่งโดยตรงจากบริษัทฯ หรือผู้ผลิตสินค้า (Supplier) ไปยังลูกค้า โดยจะจัดเรียงลำดับการขนส่งไปในทางเดียวกัน รวมถึงจะจัดหาเชื้อเพลิงหรือพลังงานทดแทนประเภทอื่น ๆ เพื่อลดการใช้น้ำมันอีกด้วย

3

บริษัทฯ มีนโยบายในการเลือกใช้เครื่องจักร หรือเครื่องมือที่มีสายการผลิตที่มีคุณภาพสูง ที่จะสามารถช่วยลดพลังงานไฟฟ้าสำหรับการ ผลิตของบริษัทฯ ได้

การบำบัดและควบคุมน้ำเสีย

บริษัทฯ ได้บำบัดน้ำเสียและสารพิษโดยวิธีการที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และมาตรฐานที่เทียบเท่ากับโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศต่างๆ มีการควบคุมการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยผลการตรวจสอบตามมาตรฐานเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้

ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้ง ปี 2565-2567

อันดับ ดัชนีการตรวจวัด หน่วย ผลวิเคราะห์ 2567 ผลวิเคราะห์ 2566 ผลวิเคราะห์ 2565 มาตรฐาน เปรียบเทียบเกณฑ์มาตรฐาน
บริเวณ Effluent บริเวณ Effluent บริเวณ Effluent
1 pH at 25 oC - 7.9 7.7 6.5 ผ่าน 5.5 - 9.0
2 Biochemical Oxygen Demand mg/L 2.0 4.42 2.2 ผ่าน <20
3 Chemical Oxygen Demand mg/L <40(23.0) <40(17.0) 32 ผ่าน <120
4 Total Suspended Solids mg/L <10 <10 <10 ผ่าน <20
5 Total Dissolved Solids mg/L 176 212 224 ผ่าน <3,000
6 Oil & Grease mg/L <1.0 <1.0 <1.0 ผ่าน <5

แนวทางการควบคุมน้ำทิ้ง

บริษัทฯ มีแนวทางการปฏิบัติและควบคุมกิจกรรมการใช้น้ำภายใน รวมถึงการทิ้งน้ำหลังจากผ่านกระบวนการเพื่อลดปัญหาน้ำเน่าเสีย และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีภายในบริษัทและชุมชนโดยรอบ

น้ำจากกิจกรรมการชำระล้างจากการอุปโภคบริโภค

น้ำที่มาจากแหล่งนี้ ได้แก่ การทำความสะอาดร่างกาย ล้างมือล้างหน้า การชำระล้างในห้องน้ำ โดยน้ำดังกล่าวจะถูกปล่อยลงท่อระบายน้ำที่เชื่อมต่อกับบ่อบำบัดน้ำเสียด้านหน้าบริษัท เพื่อปรับสภาพน้ำให้ได้คุณภาพตามข้อกำหนดก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก และเพื่อเป็นการรณรงค์และควบคุมการใช้น้ำ รวมถึงควบคุมน้ำทิ้งที่ต้องบำบัดให้มีปริมาณน้อยลง

น้ำจากกิจกรรมการชำระล้างชิ้นงาน

น้ำที่มาจากแหล่งนี้ ได้แก่ น้ำจากการทำความสะอาดชิ้นงานหลังผ่านการยิงด้วยก๊าซไนโตรเจน น้ำจากการล้างชิ้นงานหลังจาการอบชิ้นงาน การใช้น้ำในกระบวนการต้มชิ้นงาน การใช้น้ำในกระบวนการล้างชิ้นงานที่ผ่านการยิงไนโตรเจน น้ำที่มาจากแหล่งดังกล่าวจะถูกปล่อยลงท่อระบายน้ำที่เชื่อมต่อกับบ่อบำบัดน้ำเสียด้านหน้าบริษัท เพื่อปรับสภาพน้ำให้ได้คุณภาพตามข้อกำหนดก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก

น้ำจากกิจกรรมทำความสะอาด (พื้นโรงงาน)

น้ำหลังการใช้เช็ดถูทำความสะอาดพื้นโรงงาน น้ำจากการซักผ้าถูพื้น น้ำที่มาจากแหล่งดังกล่าวจะถูกนำไปทิ้งลงในถังทรายที่เตรียมไว้ เพื่อให้ทรายดูดซับน้ำไว้และทิ้งให้น้ำระเหยออกไป หลังจากนั้นให้เปลี่ยนทรายในถังเป็นเมื่อสกปรกมาก โดยการนำทรายที่ปนเปื้อนดังกล่าวส่งออกไปกำจัดโดยบริษัทที่รับบำบัดขยะอันตรายภายนอก

น้ำมันและสีที่เหลือจากกิจกรรมการทาสี ตีเส้นในโรงงาน

สีและน้ำมันที่เหลือหลังจากการใช้งานให้นำไปเทลงในกะบะทรายที่เตรียมไว้ เพื่อให้ทรายดูดซับสีและน้ำมันไว้โดยทิ้งไว้ให้แห้ง หลังจากนั้นให้เปลี่ยนทรายในกะบะเป็นระยะเมื่อสกปรกมาก โดยการนำทรายที่ปนเปื้อนดังกล่าวส่งออกไปกำจัดโดยบริษัทที่รับบำบัดขยะอันตรายภายนอก

น้ำจากกิจกรรมการชำระล้างจากโรงอาหาร

น้ำที่มาจากแหล่งนี้ ได้แก่ การทำความสะอาดภาชนะใส่อาหาร จะถูกผ่านถังดักไขมันก่อนถูกปล่อยลงท่อน้ำที่เชื่อมต่อกับบ่อบำบัดน้ำเสีย ส่วนน้ำล้างผักและเศษอาหาร น้ำล้างมือ น้ำเหล่านี้จะถูกปล่อยลงท่อน้ำที่เชื่อมต่อกับบ่อบำบัดน้ำเสียโดยตรง เพื่อปรับสภาพน้ำให้ได้คุณภาพตามข้อกำหนดก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก

น้ำจากกิจกรรมการซ้อมแผนฉุกเฉิน

แผนฉุกเฉินเมื่อสารเคมีหรือน้ำมันหกรั่วไหล แผนดับเพลิง น้ำดังกล่าวเป็นน้ำที่ปนเปื้อน ดังนั้นให้กั้นน้ำดังกล่าวไว้ห้ามปล่อยออกไปสู่ภายนอก และให้สูบน้ำขึ้นมากักเก็บใส่ในถังไว้ เพื่อรอการปรับสภาพน้ำก่อนปล่อยลงท่อระบายน้ำที่เชื่อมต่อกับบ่อบำบัดน้ำเสีย เพื่อปรับสภาพน้ำอีกครั้งก่อนปล่อยออกสู่ภายนอก

น้ำจาก Cooling Tower

เมื่อมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำให้ปฎิบัติตามขั้นตอนที่บริษัทกำหนด พร้อมทั้งตรวจเช็คความเป็นกรด ด่าง และหรือค่า Hardness และเมื่อพบว่าน้ำมีค่าเกินมาตรฐานที่กำหนด ต้องทำการปรับสภาพน้ำนั้นก่อนนำน้ำนั้นไปใช้ในกิจกรรมรดน้ำต้นไม้

การจัดการของเสียอุตสาหกรรม

บริษัทฯ จะเลือกเครื่องจักรที่มีคุณภาพสูงเพื่อช่วยลดการก่อให้เกิดของเสียในปริมาณน้อยที่สุด รวมถึงเลือกใช้ผู้รับจ้างกำจัดกากอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด

การจัดการของเสีย

มีการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการดําเนินงานทั้งในส่วนของการผลิตและกิจกรรมสนับสนุนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการเกิดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด
เมื่อเกิดของเสียขึ้นแล้ว ใช้วิธีจัดการกับของเสียแต่ละประเภทตามศักยภาพการใช้ประโยชน์ของเสียเหล่านั้น เพื่อให้มีของเสียที่ต้องถูกส่งไปกําจัดในปริมาณน้อยที่สุด
มีการจัดการของเสียเป็นไปตามที่กฎหมายกําหนด ตั้งแต่การจัดเก็บของเสีย การนําไปใช้ประโยชน์ภายในและการนําออกไปกําจัดภายนอก

บริษัทฯ ได้มีการของเสียจากกระบวนการผลิตโดยนำส่งให้กับผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาตกำจัดเป็นผู้ดำเนินการขนส่งและกำจัด โดยระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมของบริษัทมีการดำเนินการสอดคล้องตามข้อบังคับของกรมโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้ การกำจัดขยะต่างๆ ยังคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย รวมถึงบริษัทฯ ยังมีการจัดกิจกรรมภายในเพื่อลดปริมาณขยะต่อเนื่องทุกปี

หน่วย 2567 2566 2565 2564
ปริมาณขยะ กิโลกรัม 458,928 331,254 346,701 351,100
ขยะทั่วไป ร้อยละ 27 36 48 52
ขยะอุตสาหกรรม ร้อยละ 52 34 29 31
ขยะรีไซเคิล ร้อยละ 18 26 20 15
ขยะอันตราย ร้อยละ 3 4 4 2

ประเภทของขยะ

ขยะทั่วไป

สิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไมใช้แล้ว ที่ไม่เป็นอันตราย

ขยะรีไซเคิล

ขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ซ้ำในบริษัท และรวมถึงการส่งขายให้ผู้รับเหมานำไปเปลี่ยนแปลงสภาพเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์

ขยะอันตราย

สิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไมใช้แล้วที่เป็นอันตราย

กากอุตสาหกรรม

สิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไมใช้แล้ว ซึ่งเกิดจากกระบวบการผลิตจากการประกอบกิจการโรงงานที่ไม่เป็นอันตราย ซึ่งขายได้และขายไม่ได้ โดยการว่าจ้างให้ผู้รับเหมานำไปบำบัดและกำจัด

การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก

โพลีเน็ตตระหนักถึงความสำคัญของภาวะโลกร้อน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas หรือ GHG) ในปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) อุณหภูมิของพื้นผิวโลก รวมถึงภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ที่มากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนในปัจจุบัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบที่อาจตามมาในอนาคต จึงได้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) ขึ้น และได้กำหนดมาตรการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐาน ISO14064-1:2018 และยังได้กำหนดกลยุทธ์ในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกโดยการใช้พลังงานทดแทน รวมถึงวิธีการอื่นๆ ที่สำคัญ

1

การใช้พลังงานทดแทน เนื่องจากกระบวนการผลิตสินค้าของบริษัทฯ นั้น จะต้องอาศัยเครื่องจักรที่ใช้พลังงานจากกระแสไฟฟ้าค่อนข้างสูง บริษัทฯ จึงมีนโยบายที่จะใช้พลังงานทดแทน หรือการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีอาคารและโรงงานขนาดใหญ่หลายหลัง จึงมีความเหมาะสมที่จะติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เพื่อลดการใช้พลังงานและลดต้นทุนของบริษัท

2

การปรับปรุงระบบการขนส่งสินค้า (Logistic) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของบริษัทฯ ที่มีสัดส่วนต้นทุนการดำเนินงานที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากบริษัทฯ ต้องใช้รถบรรทุกเป็นจำนวนมากสำหรับการกระจายสินค้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งโดยรถบรรทุกของบริษัทฯ เอง หรือการว่าจ้างผู้รับขนส่ง ดังนั้น เพื่อลดต้นทุนในการขนส่ง และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บริษัทฯ จะดำเนินการจัดเรียงเส้นทางการขนส่งให้มีประสิทธิภาพ ทั้งการขนส่งโดยตรงจากบริษัทฯ หรือผู้ผลิตสินค้า (Supplier) ไปยังลูกค้า โดยจะจัดเรียงลำดับการขนส่งไปในทางเดียวกัน รวมถึงจะจัดหาเชื้อเพลิงหรือพลังงานทดแทนประเภทอื่นๆ เพื่อลดการใช้น้ำมัน

3

บริษัทฯ มีนโยบายในการเลือกใช้เครื่องจักรหรือเครื่องมือที่มีสายการผลิตที่มีคุณภาพสูง ที่จะสามารถช่วยลดพลังงานไฟฟ้าสำหรับการผลิตของบริษัทฯ ได้ ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทฯ นั้นสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จะสามารถผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทฯ ที่มีเป้าหมายที่จะเน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงให้แก่ลูกค้า

4

การบำบัดน้ำเสียและสารพิษ รวมถึงกระบวนการผลิตสินค้าในส่วนอื่นๆ ของบริษัทฯ นั้น บริษัทฯ ได้บำบัดน้ำเสียและสารพิษโดยวิธีการที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และมาตรฐานที่เทียบเท่ากับโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศต่างๆ ในการนี้ บริษัทฯ จะเลือกเครื่องจักรที่มีคุณภาพสูงเพื่อช่วยลดการก่อให้เกิดของเสียในปริมาณน้อยที่สุด รวมถึงเลือกใช้ผู้รับจ้างกำจัดกากอุตสาหกรรมที่มีมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด

5

มีนโยบายในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการลดโลกร้อน ซึ่งถือเป็นการช่วยประหยัดพลังงานอีกวิธีหนึ่งด้วย

6

มีนโยบายที่จะเพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยการรณรงค์การปลูกต้นไม้ในเขตโรงงานซึ่งเป็นพื้นที่ว่างเปล่า เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่สังคม โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง

7

จัดทำรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อติดตามพัฒนาการในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง

เป้าหมาย

ลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของบริษัท ( ขอบเขต 1 และขอบเขต 2) 10% จากปีฐาน 2564 ภายใน 5 ปี ปีที่ 5 (พ.ศ.2569) ค่า intensity ต้องเหลือปริมาณการปลดปล่อย Ton CO2e ต่อ อัตราการผลิต 1 Ton น้อยกว่า หรือ เท่ากับ 1.741 ซึ่งปี 2567 ได้ค่า intensity = 0.193 ซึ่งน้อยกว่า 1.741 ดังนั้น จึงได้เป้าหมายแล้วในปีนี้ ซึ่งลดลงมาจากพลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากการซื้อการไฟฟ้า แต่ไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์แทน (ส่วนนี้ทำให้ลดได้มาก)

ปี 2021 ฐาน
(ตัดบิลไฟฟ้า)
ปี 2022 ปี 2023 ปี 2024
scope 1+2 (ปริมาณการปลดปล่อย) ton CO2e 4,971.67 6.174.92 5.256.47 4,884.91
อัตราการผลิต (หน่วย Ton) 2,570.46 3,131.58 3,027.53 5,975.00
ปริมาณการปลดปล่อย ton CO2e ต่อ อัตราการผลิต 1 Ton 1.934 1.972 1.736 0.818
ถ้าเทียบปริมาณการปลดปล่อยต่อ อัตราการผลิต 1 Ton = 0.038 เพิ่มขึ้น 0 0
เป้าหมายลดลง 10% (อีก 5ปี) 0.193 0.193 0.193 0.193
ปีที่ 5 ค่า intensity ต้องเหลือปริมาณการปลดปล่อย Ton CO2e ต่อ
อัตราการผลิต 1 Ton คือ น้อยกว่าเท่ากับ 1.741 (1.934-0.193)
- ไม่ได้ตามเป้า ได้เป้า ได้เป้า

โปรแกรมการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยทำการปรับปรุงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ( Solar cells) ทดแทนพลังไฟฟ้าที่ได้มาจากการซื้อการไฟฟ้าจำนวน 3,211,071.00 kWh และคิดเป็นปริมาณ GHG ที่ลดได้ 1,605,214.39 KgCO2e

โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้งบริษัท บีเอสไอ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จากัด (“BSI”) ซึ่งเป็นผู้ทวนสอบการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เป็นผู้ทวนสอบรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปี 2567 ของบริษัทฯ โดย LRQA ได้ให้ความเห็นว่าจากการทวนสอบรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ไม่พบเหตุที่อาจสงสัยได้ว่ารายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของบริษัทฯ แสดงข้อมูลไม่ถูกต้องอย่างเป็นสาระสำคัญ โดยรายงานดังกล่าวลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568

ผลการดำเนินงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2567 ของบริษัทฯ

1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2565 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2566 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2567
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขอบเขต 1 (ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) 441 321 486
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขอบเขต 2 (ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) 5,723 4,935 4,399
ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขอบเขต 3 (ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า) 4,445 3,031 3,162

หมายเหตุ: ตามมาตรฐานการทำบัญชีก๊าซเรือนกระจก (GHG Protocol) สําหรับภาครัฐและเอกชน ซึ่งพัฒนาโดย World Resource Institute (WRI) ร่วมกับ World Business Council for Sustainable Development (WBCSD) แบ่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงและทางอ้อมเป็น 3 scope ได้แก่ ขอบเขต (Scope) 1: การปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรงทั้งหมด ขอบเขต 2 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่เกิดจากการใช้หรือการซื้อไฟฟ้า ความร้อนหรือไอน้ำ และขอบเขต 3 การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมแบบอื่นนอกขอบเขตที่กำหด เช่น การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งโดยใช้ยานพาหนะที่ไม่ได้ควบคุมโดยหรือเป็นของผู้รายงาน ฯลฯ

โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

บริษัทฯ ดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของเครื่องจักรโดยใช้เครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย ทำให้ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและลดอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์